" 5 ข้อดีของธุรกิจโลจิสติกส์ "

19 ก.ย. 24

5 ข้อดีของธุรกิจโลจิสติกส์

  1. E-Commerce โอกาสของธุรกิจโลจิสติกส์

 

การเติบโตของ E-Commerce ในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น มีผู้ประกอบการรายย่อยขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก จำนวนสินค้าที่มีการเคลื่อนย้ายขนส่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านชิ้นต่อวัน

 

อาจกล่าวได้ว่าการเติบโตของ E-Commerce นั้นมีส่วนที่ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในอนาคตข้างหน้าอัตราการเติบโตของ E-Commerce ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก สวนทางกับผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เริ่มมีจำนวนไม่เพียงพอ นี่จึงเป็นโอกาสกอบโกยกำไรในภาวะที่ธุรกิจออนไลน์กำลังเฟื่องฟูเช่นนี้

 

  1. ขยายขอบเขตได้มากกว่าแค่ส่งพัสดุ

 

หากลองมองย้อนไปถึงธุรกิจโลจิสติกส์เมื่อสมัยก่อน สิ่งแรกที่นึกถึงอาจเป็นกิจการที่นำส่งได้เฉพาะพัสดุ หรือสินค้าที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเน่าบูดเสียหาย

 

ปัจจุบันโลจิสติกส์ได้ขยายขอบเขตขึ้นไปอีกมาก ทำให้แทบไม่มีข้อจำกัดของสินค้าที่จะนำส่ง อย่างที่ทราบกันดีก็คงจะเป็นการนำส่งสินค้าประเภทอาหารผ่านทางเมสเซนเจอร์ บริการขนส่งแบบแช่เย็นสำหรับสินค้าที่เน่าเสียง่าย หรือบริการส่งไม้ประดับที่ต้องใช้การดูแลเป็นอย่างสูง

 

เนื่องจากความต้องการของลูกค้ามีมากมายหลากหลายขึ้น บริการขนส่งที่สามารถเจาะผู้ใช้บริการเฉพาะกลุ่มได้นั้น จึงสามารถดึงส่วนแบ่งทางการตลาดของกิจการขนส่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างแน่นอน

 

  1. On-Demand Delivery ความต้องการใหม่ของผู้บริโภค 

การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่ประสิทธิภาพของสินค้าอีกต่อไป หนึ่งในความต้องการใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาของผู้บริโภคนั่นก็คือ ความรวดเร็วในการขนส่ง เกิดเป็นธุรกิจโลจิสติกส์แบบ On-Demand

 

โดยปกติแล้วการสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์นั้นจะต้องทำการรอสินค้าอย่างน้อย 1-2 วัน ทำให้เริ่มมีผู้ประกอบการบางรายเห็นโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าด้วยการนำส่งสินค้าให้ลูกค้าในทันที หรือที่เรียกกันว่า On-Demand Delivery

 

แต่การจัดส่งสินค้าแบบ On-Demand นั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการจัดส่งสินค้าแบบปกติหลายเท่าตัว เนื่องจากปริมาณที่สามารถนำส่งได้ในแต่ละครั้งนั้นมีจำนวนน้อย อีกทั้งยังไม่มีผู้ที่ลงทุนในด้านนี้อย่างเต็มตัว ด้วยความต้องการใหม่ของผู้บริโภค นี่อาจเป็นโอกาสที่คุณจะได้เริ่มต้นใหม่ในธุรกิจนี้ สร้างมาตรฐานใหม่ในการขนส่งรายวันเพื่อสร้างผลกำไร

 

 

 

  1. มูลค่าทางการตลาดที่สูงขึ้นทุกปี

 

ในช่วงปีที่ 2017 – 2019 ธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทยมีอัตราเติบโตสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 40% โดยสอดคล้องกับการที่ E-Commerce ภายในประเทศเติบโตขึ้นเฉลี่ยถึงปีละ 18% เลยทีเดียว

 

นี่เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตในอนาคตของธุรกิจโลจิสติกส์ ประกอบกับในปี 2020 นี้เกิดการระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ธุรกิจ E-Commerce ทั่วโลกยิ่งเติบโตขึ้นไปอีก มีการคาดการณ์ว่าการจัดส่งพัสดุในปี 2020 จะมีจำนวนเฉลี่ยถึงวันละ 4 ล้านชิ้นเลยทีเดียว

 

  1. ยังคงเป็นพื้นฐานการทำธุรกิจให้เติบโต

 

โลจิสติกส์ยังคงเป็นพื้นฐานของการเติบโตสำหรับธุรกิจจำนวนมาก เนื่องจากการสร้างระบบขนส่งของตัวเองนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูง จึงต้องพึ่งพาการนำส่งพัสดุของโลจิสติกส์ เป็นธุรกิจแบบได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย อีกทั้ง E-Commerce ก็ยังคงมีแนวโน้มในการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ การส่งพัสดุจะต้องกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานของการขายสินค้าในอนาคตอย่างแน่นอน แม้ในอนาคตอาจมีการ Disrupt ผ่านเครื่องจักร หรือโดรนส่งสินค้า แต่ปัจจุบันบุคลากรด้านโลจิสติกส์ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างสูง

 

โลจิสติกส์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เพิ่มโอกาสมากมายให้กับธุรกิจ คุณอาจหันมาทำธุรกิจด้านนี้โดยตรง หรืออาจจะทำธุรกิจขายสินค้าอื่นๆ แล้วเพิ่มการทำโลจิสติกส์เข้าไปก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปสู่ยุค E-Commerce ที่ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าผ่านโลกออนไลน์